แด่…คุณตาเฉลา มากธรรม

นับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย. 2555 เป็นต้นไป ผมจะไม่มีโอกาสได้คุยกับตาของผมอีกแล้ว เพราะท่านได้ไปสู่สุขคติอันเป็นภพภูมิที่ดีแล้ว

ความทรงจำของผมกับตาอาจจะมีไม่มากนัก แต่ในแต่ละความทรงจำเป็นเป็นสิ่งที่ผมประทับใจและไม่มีวันลืม หลังจากผมอายุได้ไม่ถึงสิบขวบ ครอบครัวของผม (พ่อ แม่ น้อง และผม) ได้ย้ายออกไปอยู่บ้านหลังใหม่ซึ่งปลูกไว้ไม่ไกลจากบ้านของตาและยาย หลังจากที่ตาของผมได้ซื้อรถเกี่ยวข้าวและทำธุรกิจเกี่ยวกับรถเกี่ยวข้าว ผมได้เดินทางไปในที่ต่างๆ กับตาหลายที่ ทั้งกาญจนบุรี สุพรรณบุรี กำแพงเพชร เพราะด้วยจะต้องนำรถเกี่ยวข้าวไปเกี่ยวข้าวในที่ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ผมจึงมีโอกาสขับรถยนต์เป็นตั้งแต่ยังเด็ก ตาสอนให้ผมขับรถยนต์ ขับออกสู่ถนนใหญ่ ขับไปต่างจังหวัด เราเดินทางไปด้วยกันหลายๆ ที่ ซึ่งตอนนั้นผมยังเด็ก และก็สนุกกับการเดินทางไปยังที่แปลกใหม่

ตาเคยสอนให้ผมขับรถไถนา เราเคยขับรถไถนาด้วยกัน ผมเป็นคนนั่ง ตาเป็นคนขับ ถึงแม้แดดจะร้อนมาก แต่ผมกลับรู้สึกสนุก ช่วงหลังๆ ตาให้ผมขับ และให้ผมขับคนเดียว ผมได้มีโอกาสขับรถไถนาอย่างจริงจังก็คงจะเป็นครั้งนี้ ทั้งๆ ที่บ้านผมก็ทำนาแต่พ่อกับแม่ไม่เคยให้ทำนาเลย เคยแต่ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเลี้ยวรถไถนาไม่ไหว จนรถปีนขึ้นไปบนสายไฟที่โยงกับเสาไฟฟ้าไว้ แล้วผมก็ทิ้งรถไว้อย่างนั้น และตาของผมก็ต้องมาขับเอาลงมาให้

หน้าที่ของผมอย่างหนึ่งก็คือพาตาและยายไปหาหมอ เราไปหาหมอด้วยกับบ่อย หมายถึงผมเป็นคนพาไปนะครับ จริงๆ ตาผมเป็นคนแข็งแรง สามารถขับรถเองได้ แต่ก็มีบ้างที่เจ็บป่วยไม่สบายเป็นบางครั้ง

ทุกครั้งที่ผมมาบ้านตา ท่านจะเรียกให้ผมกินข้าวด้วยกันเสมอ และเราก็กินข้าวด้วยกันบ่อยครั้ง แต่ต่อไปนี้คงจะไม่มีอีกแล้ว

สมัยมัธยมผมเคยไปสอบเตรียมทหาร ต้องนั่งรถสองแถวออกจากบ้าน นั่งรถเมล์มารังสิต แล้วนั่งรถตู้ไปสอบที่รามคำแหง และคนที่พาผมมาก็คือตา โดยที่ตาของผมไม่รู้ทางอะไรเลย แต่ท่านมาเป็นเพื่อนผม มาช่วยดูแลผม ตาต้องนั่งรอผมสอบทั้งวัน และต้องนั่งอยู่กับผู้คนมากมาย ท่านคงอึดอัดอยู่เพราะไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพฯ เท่าไหร่

เมื่อผมเรียนจบปริญญาตรี ผมชวนตามางานรับปริญญาของผม พร้อมกับพ่อ แม่ และน้อง เราถ่ายรูปด้วยกัน ทั้งๆ ที่ตาไม่ค่อยถนัดเรื่องถ่ายรูป อีกอย่างคนก็เยอะ รอก็นาน แต่ท่านก็ยังอดทนและยินดีกับความสำเร็จของผม

สิ่งที่ผมทำให้ท่านได้ภูมิใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมได้บวชให้ท่านเมื่ออายุครบบวช มันเป็นสิ่งที่ตาของผมรอมานานที่อยากจะเห็นผมได้บวช แม่บอกว่าตาชอบไปคุยกับญาติพี่น้องว่าเค้าดีใจที่ได้บวชหลานคนนี้

หลังจากที่มาเป็นครูอยู่ลำลูกกา และได้เรียนต่อปริญญาโทในวันเสาร์-อาทิตย์ ทำให้วันหยุดที่จะมีโอกาสได้กลับบ้านน้อยลง ได้กลับบ้านน้อยลง ได้คุยกับแม่ กับพ่อ กับตา กับยายน้อยลงไปด้วย แต่ทุกครั้งที่กลับบ้านผมก็จะไปหาท่านทุกคน ผมตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน และรีบทำวิทยานิพนธ์จนสามารถจบได้ภายในสองปี เพื่อที่ว่ารับปริญญาปีนี้ (2555) ผม พ่อ แม่ ตา ยาย และญาติพี่น้องจะได้มารวมกันและถ่ายรูปร่วมกับกับผมอีกครั้ง

แต่มันไม่ทันแล้ว ตาจากไปแล้ว จากไปเร็วเกินกว่าที่ผมจะตั้งตัวได้ ครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน ท่านยังดูแข็งแรงอยู่ วันที่ท่านอาเจียนเป็นเลือดและเข้าโรงพยาบาล ผมรีบมาเยี่ยม มาหา ผมพูดอะไรไม่ออก ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลผมคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ จนเวลาที่ท่านสิ้นใจ…

ผมได้แต่จับขาของตาไว้ เผื่อตาจะรู้ว่าผมมา ผมมาหา ผมเสียใจ ผมขอโทษ ที่ผมมาหา มาเยี่ยมน้อยไป พี่ผมดูแลตาไม่ดีพอ ผมมัวแต่ทำงาน มัวแต่ห่วงเรื่องเรียน ผมไม่เคยบอกรักตา ผมอยากบอกรักตา ผมรักตา

ผมไม่ทันตั้งตัวกับการจากไปของตาในครั้งนี้ ผมตั้งใจที่จะพาทุกคนไปงานรับปริญญาของผม และมันเหลือเวลาที่แค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะพังทลาย แต่ผมก็เข้าใจ ผมยังมีคนที่รักคนอื่นๆ ที่เค้ายังอยู่ ยังรอดูความสำเร็จของผม และผมจะตั้งใจทำมันให้ดีต่อไป

สิ่งที่ผมได้จากบนเรียนชีวิตครั้งนี้ คงเป็นเรื่องของการให้เวลากับครอบครัว กับคนที่รักผม กับคนที่ผมรักมากขึ้น ผมคงต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ดีกว่านี้ เพื่อที่จะได้มีเวลาดูแลคนที่ผมรัก ดูแลครอบครัวของผมให้ดีพอ เพื่อวันหนึ่งผมจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้ แบบที่รู้สึกว่าผมยังดูแลคนที่ผมรักไม่ดีพอ…

บทความเรื่องนี้ขอมอบให้คุณตาอันเป็นที่รักยิ่งของผม ผมจะจดจำคำสั่งสอนที่ตาให้มา และจะทำมันให้ดีที่สุด ขอให้ตาหลับให้สบาย อย่าได้ห่วงหลานคนนี้ และผมจะดูแลแม่ ดูแลน้องๆ ให้ดีที่สุด

ขอบุญกุศลที่ผมได้ทำมา จงส่งผมถึงคุณตาเฉลา มากธรรม คุณตาของผม ขอให้ท่านมีความสุข ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี และพบกับนิพพานในที่สุด หากมีสิ่งใดที่หลานคนนี้ทำให้ตาไม่สบายใจ เป็นทุกข์ใจ ขอให้ตาอโหสิกรรมให้กับหลานคนนี้ด้วยครับ…

รักตา

ณัฐพล บัวอุไร (โจ๊ก)

Related Posts

[บันทึกสงครามไทย-กัมพูชา] 27 ก.ค. 68 ศึกตาควาย: ทรัมป์ไกล่เกลี่ย ไทย-กัมพูชาปะทะเดือดอีกครั้ง

การสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (27 ก.ค. 2568) ภาพรวมเหตุการณ์ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียดและมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ นับตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เริ่มโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทย รวมถึงการโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างไม่เลือกหน้า การกระทำของกัมพูชาถือเป็นการละเมิดอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาเจนีวา จุดยืนและการตอบสนองของไทย ไทยยืนยันจุดยืนในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีผ่านการเจรจาทวิภาคี และพร้อมหารือเพื่อกำหนดมาตรการหยุดยิงที่ชัดเจนและยั่งยืน หากกัมพูชาแสดงความจริงใจ อย่างไรก็ตาม การโจมตีต่อเนื่องของกัมพูชาสะท้อนการขาดความจริงใจและไม่สอดคล้องระหว่างคำพูดกับการกระทำ สิทธิในการป้องกันตนเอง: ไทยขอสงวนสิทธิ์ในการป้องกันตนเองตามมาตรา…

[บันทึกสงครามไทย-กัมพูชา] 26 ก.ค. 68 ตราดพิฆาตไพรี 1 ถล่มกัมพูชา

26 กรกฎาคม 2568 (วันที่สามของการปะทะ) 02:00 น. – เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของฮุนเซน ลงจอดที่สิงคโปร์ (หลังจากบินไปอินโดนีเซีย) 05:00 น. – (ตามที่พระศักดา สุนทโร และแม่ค้าหมูปิ้งรายงาน) ได้ยินเสียงปืนใหญ่และระเบิดดังขึ้น แสงไฟวาบจากภูเขาบรรทัด ชาวบ้านเห็นแสงไฟหลายลูกลอยอยู่กลางอากาศ 05:10 น. – กองทัพเรือเปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี 1” ตอบโต้การโจมตีของทหารกัมพูชาในพื้นที่บ้านชำราก จังหวัดตราด…

[บันทึกสงครามไทย-กัมพูชา] 25 ก.ค. 68 การปะทะที่รุนแรง และ ความพยายามของกัมพูชาในการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์

ลำดับเหตุการณ์ 25 กรกฎาคม:04:30 น.: ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงถล่มทหารไทยอย่างดุเดือดตามแนวรบปราสาทพระวิหารฝั่งศรีสะเกษ ไทยยิงโต้ตอบ. 04:50 น.: รถถังกัมพูชา 6 คัน จอดเรียงหน้ากระดานฝั่งตรงข้ามช่องบก. 04:54 น.: ทหารทั้งสองฝ่ายประจำแนวรบด้านปราสาทพระวิหาร. 05:30 น.: ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงจากพื้นที่สุรูปากกล้วย ไทยใช้รถถังเบา Scorpion ยิงสนับสนุนบริเวณด้านข้างปราสาทตาเมือง. 05:00 น. เศษ (เกือบ 06:00 น.):…

[บันทึกสงครามไทย-กัมพูชา] 24 ก.ค. 68 เมื่อกัมพูชาเริ่มยิงเข้ามาในไทย และสร้างความสูญเสียให้กับเด็กและชาวบ้าน

ลำดับเหตุการณ์ วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุทุ่นระเบิดครั้งแรก: ทหารไทย 3 นายเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี มี 1 นายบาดเจ็บสาหัส กระทรวงการต่างประเทศประท้วงกัมพูชา: รัฐบาลไทยได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อกัมพูชาโดยตรง และประท้วงต่อญี่ปุ่นในฐานะประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาครั้งที่ 22 วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2568 16:55 น. เหตุทุ่นระเบิดครั้งที่สอง: กำลังพลจากกองพันทหารราบที่ 14 ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณห้วยบอน…

อย่าไปอินกับ AI ที่จะทำให้เราสบาย…จนละทิ้งการเรียนรู้และศึกษาเรื่องนั้นอย่างแท้จริง

ชวนคิด…วันนี้ เสนอตอน: อย่าไปอินกับ AI ที่จะทำให้เราสบาย…จนละทิ้งการเรียนรู้และศึกษาเรื่องนั้นอย่างแท้จริง . ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ AI ช่วยงานเยอะครับ เพราะมันช่วยเบาแรงและลดภาระเราได้จริง ๆ นะ แต่บางเรื่องในบริบทของหน้าที่ครู ผมก็เห็นว่าผลงานบางอย่างครูเป็นผู้เขียนขึ้นมาเองจากกระบวนการคิดการไตร่ตรอง ประสบการณ์ที่สะสมมา จะเป็นประโยชน์และมีคุณค่าสำหรับนักเรียนมากกว่าที่จะให้ AI สร้างงานนั้นให้เรา . รวมไปถึงการมองว่า AI จะทำให้เราสบาย จนละทิ้งแก่นสำคัญของการได้มาซึ่งงานที่มีคุณภาพตามบริบท สภาพแวดล้อม หรือความเหมาะสมสำหรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนของเราครับ . จากภาพนี้ผมชวนคิดว่า…

บันทึกความทรงจำ: ผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งแรกในชีวิตของผมเอง

​เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.20 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองสะกาย ประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 326 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อหลายพื้นที่ในประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานคร ผลกระทบในประเทศไทย กรุงเทพมหานคร: อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในย่านจตุจักร ซึ่งมีความสูง 33…

This Post Has 3 Comments

  1. ขอแสดงความเสียใจด้วยน้องโจ๊ก คุณยายพี่ก็เพิ่งจะเสียเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนนี้เช่นกัน พี่หวังว่าทั้งคุณตาน้องโจ๊ก และคุณยายพี่ท่านจะสู่สุคติเหมือน กัน

  2. -ขอแสดงความอาลัยกับครูโจ๊กด้วยใจจริง

  3. ดรีมก้อเหมือนกันดรีมได้เห็นปู่มองดรีมก่อนปู่จะตายดรีมได้จับมือแกตอนที่แกกำลังเจ็บปวดมากแกหันมามองดรีม
    แร๊วปู่ก้อจากไป……….

Leave a Reply to หวานใจ กะ นายจอมหยิ่ง Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.