One day trip: ทำบุญที่วัดธัญญผล ไปบางแสน และสะพานชลมารควิถี

วันที่ 7 พ.ค. 2566 วันนี้ตกลงกับคุณแม่ของอันนาไว้ว่าจะพาไปทานข้าวที่ชลบุรี และก็เลือกร้านไว้แล้วเรียบร้อยครับ เป็นร้านแถวๆ สะพานชลมารควิถี ชื่อร้านว่า “เพลินทะเล”

เริ่มต้นตอนเช้าหลังจากเก็บกวาดบ้าน ทำความสะอาดเรียบร้อยตามหน้าที่ เราก็ออกเดินทางกันเลย

แต่ด้วยกว่าที่เราจะออกจากบ้านก็สายแล้ว และยังไม่ได้ทานข้าวเช้า เราก็เลยแวะร้านใกล้ ๆ บ้าน ซึ่งเพิ่งเข้าไปทานเป็นครั้งแรกเลย ก็คือร้าน “ข้าวแกงนางงาม” ของคุณบุ๋ม ปนัดดาครับ

รสชาดอาหารถือว่าดีเลย เลือกใส่ถาด จ่ายตัง ตักข้าวได้ไม่อั้น น้ำเปล่าฟรี เราเลือกกับข้าวมา 8 ถ้วย และข้าวเปล่าของทั้ง 3 คน พ่อค้าคิดแค่ 2 จาน เพราะของอันนาฟรี เราก็เลยจ่ายมื้อนี้ไปเพียง 100 บาท อิ่มมาก ๆ ครับ

อิ่มแล้วเราก็ออกเดินทางไปทำบุญกันที่วัดธัญญผล เพราะอันนาอยากมาให้อาหารปลาที่วัดนี้ครับ เราให้อาหารปลา แล้วก็เดินไปไหว้พระในโบสถ์ ไหว้พระธาตุประจำวันเกิด แล้วหลวงตาที่รับถวายสังฆทานมาฉันเพลเสร็จมาพอดี เราก็ได้ถวายสังฆทานกันเรียบร้อย อิ่มบุญกันไปครับ

แล้วเราก็ออกเดินทางไปจังหวัดชลบุรีกัน ซึ่งที่บอกไว้ตอนต้นว่าเราตั้งใจจะไปทานข้าวเย็น และก็หาวิวถ่ายรูปแถว ๆ สะพานชลมารควิถี แต่เนื่องจากเราน่าจะถึงเร็วเกินไป พ่อโจ๊กก็เลยขับรถไปเรื่อย ๆ ไปทางหนองจอก ดูวิวทิวทัศน์ไปเรื่อย ๆ จนไปถึงหาดบางแสนเวลาประมาณบ่ายสามโมงนิด ๆ ครับ

เราใช้เวลาหาที่จอดรถนานมากกกกกกกกกกกกกกก น่าจะเกินครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้ที่จอด แล้วก็พออันนาลงไปเดินเล่น ดูทะเล ดูของที่พ่อค้าแม่ค้ามาตั้งร้านขายกันนิดนึง และอันนาได้กินเครปไป 1 ชิ้นเต็ม ๆ กินจนหมดเลย (น่าจะหิวแล้ว)

เดินได้สักพัก อันนากินเครปอิ่ม ก็อยากออกจากที่นี่แล้ว เพราะอากาศร้อนพอสมควร และเวลาก็ใกล้ ๆ จะห้าโมงเย็นแล้วครับ เราก็เลยออกจากหาดบางแสนกันดีกว่า

ออกจากหาดเราก็ขับรถเที่ยวเล่นแถว ๆ แหลมแท่น แล้วก็จุดชมวิวตรงบางแสนนิดนึงครับ ถ่ายรูปได้ไม่นาน เพราะอากาศร้อนสุด ๆ ไปเลย 55

จากนั้นเราก็ออกเดินทางไปที่สะพานชลมารควิถีกันครับ แดดกำลังดี ไม่ร้อนมาก แต่คุณแม่กับอันนาก็ไม่ยอมลงจากรถมาถ่ายรูปแล้ว พ่อเลยได้รูปวิวมานิดหน่อย ก่อนจะพาทุกคนไปทานเข้าเย็นกัน

แล้วก็ได้เวลาอาหารเย็นของเรา เรามาถึงร้านประมาณห้าโมงครึ่งครับ มีคนมาที่ร้านแล้วโต๊ะนึง บรรยากาศร้านเป็นทำด้วยไม้ ดูขลัง ๆ นิดนึง แต่ก็บรรยากาศดี มีแอร์ อาหารอร่อยใช้ได้เลยครับ

ทานข้าวเสร็จประมาณ 1 ทุ่ม คุณแม่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ ก็เลยมุ่งตรงกลับบ้านเลย น่าจะเป็นเพราะอากาศร้อน ๆ ด้วย แล้วก็มาเจอแอร์ด้วย ตอนแรกคิดว่าจะไปถ่ายรูปสะพานตอนค่ำ ๆ อีกสักหน่อย แต่ก็อดครับ 55

แล้วเราก็จบทริปสั้น ๆ  1 วันที่เดินทางจากปทุมธานี ไปชลบุรีเรียบร้อย ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพครับผม

 

Related Posts

MOU ก้าวไกล ไม่มีการเมืองไทยยุคไหนที่จะทำแบบนี้มาก่อน

เป็นอีกบทบาทหนึ่งของสังคมการเมืองไทย ที่มีแกนนำพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลมาจัดทำ MOU ร่วมกัน ตกลงกันเพื่อที่จะทำงานให้ประเทศชาติ แน่นอนครับการเช็นต์อะไรลงไปใน MOU นั้นต้องเป็นการผูกมันและให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานตามที่ระบุไว้ในนั้น และทุกพรรคก็หารือร่วมกันจนได้ร่าง MOU ที่สมบูรณ์

สิ่งที่ต้องบันทึกไว้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็คือรายละเอียด MOU ครับ ซึ่งขออนุญาตนำมาโพสไว้ดังนี้

การทำงานของนักการเมืองรุ่นใหม่ (แตกต่างไปจากเดิมมากจริง ๆ)

หากเราผ่านการเลือกตั้งมามากกว่า 3 – 4 ครั้ง เราจะพบว่า เมื่อมีพรรคการเมืองใดเป็นฝ่ายชนะ ก็จะเริ่มหาพรรคพวก ในกรณีที่เสียง สส. ยังไม่เพียงพอ หรือกว่าจะได้รับการรับรอง ก็นานเป็นเดือน แล้วจึงจะเริ่มทำงานตามนโยบายที่หาไว้กันใช่ไหมครับ

แต่ในยุคนี้ (พ.ศ. 2566) การเลือกตั้ง 2566 แปลกไปจากครั้งก่อน ๆ เพราะสื่อสังคมออนไลน์เติมโตมาก นักการเมืองในพรรคที่ได้ สส. เยอะ ก็เป็นคนรุ่นใหม่เป็นส่วนใหญ่ (พรรคก้าวไกล) จึงเริ่มสื่อสารกับประชาชน เริ่มวางแผน และบางส่วนก็เริ่มทำงานกันแล้ว โดยที่ยังไม่ได้รับการรับรองจาก กกต. เลย 

เลือกตั้ง 2566

การเลือกตั้ง สส. และนายกประเทศไทย ณ เวลานี้ก็รู้ผลคร่าว ๆ เป็นที่แน่นอนแล้วครับ หลังจากที่มีการจัดการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 2566 

การเลือกตั้งในทุก ๆ ครั้งก็จะมีสถิติที่รายงานบนหน้าจอทีวีและสื่อออนไลน์ให้เห็นกันปกติ แต่ครั้งนี้หลาย ๆ สำนักทำดีมาก ทำเป็น data visualization ได้เห็นภาพชัดเจนจริงๆ

การเริ่มเก็บเงินก้อนใหญ่ของอันนา ตอนอายุ 7 ขวบ

อันนาเริ่มต้นจริงจังกับการเก็บเงินให้ได้ 35,000 ด้วยการทำบัญชีเงินเก็บ

จากเดิมที่ให้ค่าขนมอันนาสัปดาห์ละ 400 และหากต้องการของอะไรพิเศษก็ใช้เงินค่าขนมซื้อ ในทุกๆสัปดาห์อันนาก็จะซื้อของที่อยากได้ แต่ก็ไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์ได้จริง เช่น กระเป๋า ขวดน้ำ ตุ๊กตา ทำให้ไม่ค่อยเหลือเงินเก็บ

ในระยะหลังนี้อันนาเริ่มอยากได้ของที่แพงมากขึ้น พ่อจึงได้โอกาสเริ่มสอนอันนาเรื่ิองการเก็บเงิน การใช้เงินอย่างคุ้มค่า และการหักห้ามใจไม่ซื้อของที่ไม่ได้ใช้จริง เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อสิ่งที่ใหญ่และสำคัญกว่า

หลายๆ ครั้งที่เขายืนพิจารณาตุ๊กตา ขวดน้ำ กระเป๋า ที่ร้านค้า ซึ่งเป็นสิ่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ อันนาเริ่มที่จะคิดว่าถ้าซื้อสิ่งนั้นก็จะไม่มีเงินเก็บเพื่อซื้อสิ่งของชิ้นใหญ่ที่ตัวเองต้องการ

มันยากเหมือนกันนะ กับการห้ามใจตัวเอง กับการฝืนใจที่จะไม่ซื้อของตรงหน้าเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า แต่อันนาก็เริ่มทำได้แล้ว

ค่าขนมที่ให้ไป รร ก็เริ่มใช้แบบคุ้มค่ามากขึ้น เพื่อให้ให้มีเงินเก็บเยอะๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์อันนาก็จะขวนขวายนับเงินและเริ่มบันทึกลงสมุดไว้

ตอนนี้ก็ได้เยอะพอสมควรแล้ว ขาดอีก 3 หมื่นเองนะอันนา สู้ๆ

พาอันนาเที่ยวสวนน้ำ The Resort Water Park สวนผึ้ง ราชบุรี

ปีนี้มีโอกาสได้พาอันนาแวะเที่ยวสวนผึ้งราชบุรีแล้ว เพราะอันนาเคยบอกไว้ว่าอยากไปเที่ยวสวนผึ้ง อยากไป The Resort (น่าจะเพราะว่าดูช่องน้องบีม)
ดังนั้นปีนี้ก่อนเดินทางลงใต้ไปสุราษฎร์กัน ก็เลยได้่พาอันนาไปเที่ยวสวนผึ้งครับ และไปแวะรับยายติ๋มของอันนาลงไปใต้ด้วยที่อำเภอจอมบึง อันนาจะสนุกและชอบที่นี่ไหม ไปดูกันครับ

พาอันนาไหว้พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม

ทริปนี้ไม่ได้วางแผนไว้ก่อนครับ แต่เป็นทริประหว่างทางที่เรากำลังจะไปสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีกัน ไหน ๆ เราก็ผ่านจังหวัดนครปฐมแล้ว ก็เลยแวะไหว้พระ ทำบุญสงกรานต์กันซะหน่อยดีกว่า อากาศวันนี้ก็ร้อนใช้ได้เลย การไหว้พระ ทำบุญของอันนาจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.