เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม ? ว่าด้วยเรื่อง Integral (อินทิเกรตที่เรารู้จัก)

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเรียนหรืออย่างน้อย ๆ ก็คงเคยได้ยินคำว่า “อินทิเกรต” ซึ่งเป็นเนื้อหาหนึ่งในเรื่อง Calculus ของวิชาคณิตศาสตร์ใช่ไหมครับ

สำหรับคนที่เคยเรียนมาแล้วก็อาจจะนึกถึงประสบการณ์นั้นได้ว่า “แม่งโครตยากเลย” หรือหลายคนอาจจะคิดว่า “เรียนไปทำไมเนี่ยเรื่องนี้” วันนี้ผมจึงอยากจะพาทุกคนมารู้จักแก่นของเรื่อง Integral กันครับ ว่าจริง ๆ แล้วหลักการมันไม่ได้ยากหรอก บางทีเราเห็นชื่อหรือได้ยินเค้าเล่ามาเราก็ตีความว่ามันยากไปซะแล้ว หรือกระบวนการที่เราเรียนนั้นเน้นไปที่เราแก้โจทย์ปัญหาหรือสมการยาก ๆ จนทำให้เราไม่ได้เข้าใจถึงหัวใจหรือหลักการสำคัญของเรื่องนี้ครับ

ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่ครูคณิตศาสตร์ และผมก็ไม่สามารถคำนวณอะไรยาก ๆ ที่ซับซ้อนได้ ณ ตอนนี้ กระบวนการบางเรื่องผมก็ลืมไปแล้ว แต่ถ้าต้องการให้แก้โจทย์ปัญหา แล้วให้เวลาผมเรียนรู้ ผมคิดว่าผมทำได้ครับ ซึ่งชีวิตจริง ๆ ของมนุษย์เราก็แบบนี้ใช่ไหมล่ะ ดังนั้นผมจึงบอกเสมอว่า เรียนเรื่องใด ๆ ก็ตามต้องเข้าใจถึงแก่นถึงหัวใจของเรื่องนั้น ส่วนเรื่องกระบวนการเชิงลึกที่ต้องคำนวณยาก  ๆ เดี๋ยวเรามาต่อยอดกัน

คราวนี้เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ

อินทิเกรตที่เราเรียกกันหรือ Integral นั้น หลักการโดยสรุปก็คือการรวมของสิ่งเล็ก ๆ ที่มีจำนวนมาก ๆ แค่นี้เลยครับ ซึ่งเวลาเราเรียนก็จะมีเรื่องกราฟมาให้เราปวดหัวด้วย แล้วก็หาพื้นที่ใต้กราฟกันใช่ไหมครับ อธิบายสั้น ๆ ด้วยตัวอย่าง ความเร็วรถยนต์แล้วกัน สมมติว่าเราเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ แล้วเราขับไปจอดแวะพัก หน้าจอรถยนต์แสดงความเร็วเฉลี่ย 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าเราใช้เวลาจากกรุงเทพมาจุดแวะพักนี้ 2 ชั่วโมง ก็แสดงว่าเราเดินทางมาแล้ว 60 x 2 = 120 กิโลเมตรใช่ไหมครับ นี่แหละครับ Integralคำถามคือ ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงเราขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคงที่ตลอดใช่หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะบางที่เราก็เร่ง บางทีเราก็เบรก ถูกไหมครับ ทำให้ความเร็วแต่ละช่วงเวลาไม่เท่ากัน แต่หน้าจอรถมันแสดงภาพรวมตลอดระยะทาง พอความเร็วแต่ละช่วงไม่เท่ากัน ถ้าเรานึกภาพของกราฟความเร็ว ก็คือกราฟจะเริ่มต้นจากเราออกตัวที่ความเร็วเป็น 0 แล้วก็เป็นกราฟเส้นที่ขึ้น ๆ ลง ๆ จนกระทั่งเรามาจึงจุดพักที่ความเร็วเป็น 0 อีกครั้งใช่ไหมครับ จะเห็นว่า ถ้ากราฟแบบนี้เราต้องการจะหาระยะทางว่าเราเคลื่อนที่ไปแล้วเท่าใด เราก็ต้องนำจุดของการเคลื่อนที่เล็ก ๆ มาคำนวณระยะทาง และบวกรวมกันไปเรื่อย ๆ เช่น นาทีที่ 61 ถึง 62 เราใช้ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แสดงว่าเราเคลื่อนที่ไปได้ คราวนี้ถ้านาทีที่ 62 – 64 เราเปลี่ยนความเร็ว เราก็ต้องคำนวณใหม่ถูกไหมครับ เราก็จะใช้วิธีการนี้ตลอดเส้นทาง แล้วสุดท้ายเราก็จะได้ระยะทางทั้งหมดที่เราเดินทาง ซึ่งก็จะเหมือนกับการที่เราหาค่าเฉลี่ยของความเร็วตลอดเส้นทาง x ด้วยเวลาทั้งหมดที่ใช้เดินทางนั่นเองครับ

สรุปก็คือ Integral เป็นการหาค่าผลรวมของปริมาณใด ๆ ก็ตามที่เป็นขนาดเล็ก ๆ นำมารวมกันนั่นเอง แล้วมันเอาไปใช้ทำอะไรในชีวิตประจำวันบ้างล่ะ? หากจะยกตัวอย่างการหาพื้นที่ใต้กราฟ เราก็จะสามารถนำ Integral ไปใช้ได้ดังนี้ครับ

สถานการณ์ที่ต้องหาพื้นที่ใต้กราฟ

  1. คำนวณปริมาณน้ำฝน  กราฟปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละชั่วโมงสามารถใช้ Integral เพื่อคำนวณปริมาณน้ำฝนสะสมทั้งหมดในหนึ่งวัน
  2. วิเคราะห์การใช้พลังงาน  กราฟการใช้ไฟฟ้ารายชั่วโมงสามารถใช้ Integral เพื่อหาพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้ตลอดทั้งวัน
  3. วิเคราะห์เศรษฐศาสตร์  พื้นที่ใต้กราฟของอุปสงค์และอุปทานสามารถใช้หาค่ารายได้รวมของธุรกิจ
  4. คำนวณระยะทางสะสมของรถยนต์  ถ้ารู้ว่ารถมีความเร่งที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ สามารถใช้ Integral เพื่อหาค่าระยะทางสะสมของรถ
  5. ชีววิทยาและสรีรวิทยา  การวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา สามารถใช้ Integral เพื่อวัดปริมาณเลือดที่สูบฉีดผ่านหัวใจในช่วงเวลาหนึ่ง

และยังมีอีกมากมายที่สามารถใช้เรื่องนี้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ครับ ซึ่งมาถึงจุดนี้ผมก็เชื่อว่าหลายคนคงยัง งง อยู่ ประเด็นก็คือ เราตัดชื่อคำที่น่ากลัวว่า อินทิเกรต ออกจากหัวเราไปก่อน ตัดการคำนวณสมการยาก ๆ ออกจากหัวเราไปก่อน แล้วค่อย ๆ ทำความเข้าใจหลักการ ทฤษฎีเรื่องนี้ก่อนครับ ว่าหลักการของมันคืออะไร แล้วจากนั้นค่อยไปลองเล่น ลองทำโจทย์ต่าง ๆ ดู เราก็จะเข้าใจมากขึ้นครับ

 

Related Posts

เลิกปวดหัวกับงานออกแบบ! สร้าง Infographic สรุปบทเรียนสวยๆ ใน 5 นาทีด้วย Google NotebookLM

คุณครูเคยเจอปัญหานี้ไหมครับ? อยากสรุปเนื้อหายากๆ ให้นักเรียนเข้าใจง่ายด้วย Infographic แต่ลำพังแค่เตรียมเนื้อหาก็หมดแรงแล้ว ยังต้องมานั่งจัดวางองค์ประกอบ เลือกสี เลือกฟอนต์ จนบางทีใช้เวลาเป็นวันกว่าจะได้สื่อการสอนสักชิ้น… วันนี้ผมมีทางลัดมาฝากครับ! ขอแนะนำฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำบน Google NotebookLM ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำสื่อของคุณครูไปตลอดกาล เครื่องมือนี้ไม่ได้มีดีแค่ช่วยสรุปเอกสารหรือช่วยวิจัยเท่านั้น แต่ตอนนี้มันสามารถ “แปลงข้อมูลงานวิจัย ให้กลายเป็น Infographic” ได้ในพริบตา! *** ช่วงนี้อาจจะใช้ได้เฉพาะ Gemini Pro นะครับ // เวอร์ชั่นฟรี…

ปฏิวัติการสร้าง Workflow ด้วย Google Opal: AI จาก Google Labs ที่คุณต้องลอง!

โลกของ AI พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด และ Google ก็ไม่เคยหยุดนิ่งในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ล่าสุดนี้ Google Labs ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI สุดล้ำที่ชื่อว่า “Google Opal” ซึ่งกำลังจะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการสร้าง Workflow หรือกระบวนการทำงานของแอปพลิเคชันไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เพียงแค่ “อธิบาย” ในภาษาธรรมชาติ คุณพร้อมหรือยังที่จะดำดิ่งสู่โลกใหม่ของการพัฒนาแอปพลิเคชันขนาดเล็กด้วย AI ที่ใช้งานง่ายกว่าที่เคย? Google…

สร้างคลิปนิทานด้วย Gemini และ NotebookLM

ลองทำคลิปนิทานหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเนื้อหาบทเรียนที่สนุกสนาน ด้วยการนำมาทำเป็นคลิปวิดีโอกันครับ … วันนี้เราสามารถทำคลิปวิดีโอเรื่องใดก็ได้ เป็นคลิปสั้นๆ 6-7 นาที ด้วยกระบวนการที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ทำตามวิธีต่อไปนี้ได้เลยครับ

Canva AI + Canva Sheet รับจบทุกระบบ ทุกนวัตกรรมการสอนที่ครูต้องการ

Canva AI + Canva Sheet รับจบให้ทุกนวัตกรรมที่ครูต้องการ ขั้นตอนง่าย ๆ ตามนี้เลยครับ … ด้านการสอน ครูสามารถสร้างเครื่องมือเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การทำกิจกรรมในชั้นเรียนได้อย่างรวดเร็ว เช่น เกม บทเรียน แบบวัด/ประเมินต่าง ๆ … ด้านงานประจำ/งานอื่น ๆ จะนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างแบบสอบถาม แบบบันทึกต่าง ๆ หรือระบบต่าง ๆ ในโรงเรียนก็สะดวกครับ…

เมื่อ Google Form ไม่ตอบโจทย์การสร้างแบบสอบถามและการประเมินผล ก็ใช้ AI ช่วยได้เลยครับ

เมื่อ Google Form ไม่ตอบโจทย์การสร้างแบบสอบถามและการประเมินผล ทำไม่ไม่ตอบโจทย์ใช่ไหมครับ? – เสียเวลาพิมพ์ข้อคำถาม – แสดงผลแล้วอ่านบนมือถือค่อนข้างยาก – อยากได้รูปแบบอื่นๆ หรือฟังก์ชันเพิ่มเติมที่แตกต่าง และสวยงามกว่าเดิม … วันนี้จะมาเล่าการประยุกต์ใช้ AI เพื่อสร้างแบบประเมินโครงการ ให้เป็นไปตามหลักการประเมินโครงการครับ โดย flow ในการทำงานหลัก ๆ มีดังนี้ … 1. เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจโครงการก่อนครับ เพราะเราเป็นผู้ประเมิน…

สร้างแบบสอบถามสวย ๆ ไม่ง้อ Google Form เก็บข้อมูลไว้ใน Google Sheet

สร้างแบบสอบถามสวย ๆ ไม่ง้อ Google Form เก็บข้อมูลไว้ใน Google Sheet … หัวใจสำคัญคือ 1. การ prompt ให้ ai ช่วยวิเคราะห์โครงการ/กิจกรรม และออกแบบข้อคำถามให้ตอบวัตถุประสงค์ของกิจกรรม 2. การเชื่อมต่อกับ Google Sheet ผ่าน Google Script (ขั้นตอนนี้ สามารถทำตามคำแนะนำของ AI…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.