ลำดับเหตุการณ์
วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568
- เกิดเหตุทุ่นระเบิดครั้งแรก: ทหารไทย 3 นายเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี มี 1 นายบาดเจ็บสาหัส
- กระทรวงการต่างประเทศประท้วงกัมพูชา: รัฐบาลไทยได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อกัมพูชาโดยตรง และประท้วงต่อญี่ปุ่นในฐานะประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาครั้งที่ 22
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2568
- 16:55 น. เหตุทุ่นระเบิดครั้งที่สอง: กำลังพลจากกองพันทหารราบที่ 14 ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ทหาร 5 นายได้รับบาดเจ็บ โดย 1 นายข้อเท้าขวาขาด และอีก 4 นายมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ
- กระทรวงกลาโหมไทยหารือกับกองทัพ: “บิ๊กเล็ก” (พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์) หารือกับกองทัพและตกลงมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในการอำนวยการยุทธตาม พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มาตรา 39
- แม่ทัพภาคที่ 2 เสนอวางลวดหนาม: แม่ทัพภาคที่ 2 ขออนุญาตวางลวดหนามในพื้นที่ที่ทหารกัมพูชามักรุกล้ำ
- สถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญเตือนคนไทย: สถานทูตไทยเตือนคนไทยที่พำนักในกัมพูชาให้ออกนอกประเทศโดยเร็วที่สุดหากไม่จำเป็น และงดการเดินทางเข้ากัมพูชา
- กระทรวงการต่างประเทศบรรยายสรุปคณะทูต: จัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศและผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ 93 คนจาก 68 ประเทศเกี่ยวกับเหตุทุ่นระเบิด
- กระทรวงการต่างประเทศประณามการละเมิดอำนาจอธิปไตย: ประณามการละเมิดอธิปไตยและการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2568
- 07:35 น. กัมพูชาใช้โดรนสอดแนม: กัมพูชาเริ่มใช้โดรนบินตรวจการณ์การวางกำลังของไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม
- 07:45 น. ทหารกัมพูชาเคลื่อนไหว: กำลังทหารกัมพูชา 6 นายพร้อมอาวุธเคลื่อนตัวมายังแนวลวดหนามที่ไทยวางไว้
- 08:20 น. กัมพูชาเปิดฉากยิง: กัมพูชาเปิดฉากยิงจากฝั่งตรงข้ามฐานหมูป่า ประมาณ 200 เมตรทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือนธม ทำให้ฝ่ายไทยต้องยิงตอบโต้
- สถานการณ์บานปลาย: การปะทะลุกลามไปยังพื้นที่ชายแดน 6 จุด ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย, ช่องบก, เขาพระวิหาร, ช่องอานม้า, และช่องจอม
- กัมพูชาใช้อาวุธหนัก: กัมพูชาใช้ BM21 (เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง) และปืนใหญ่ขนาด 122 มม. โจมตี ทำให้บ้านเรือนพลเรือนไทยและศูนย์พัฒนาชายแดนได้รับความเสียหาย
- ไทยยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่: กองทัพไทยอนุมัติยิงปืนใหญ่เพื่อปกป้องอธิปไตย
- กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือสื่อ: งดสอบถามข้อมูลที่อาจเปิดเผยพิกัดหรือการปฏิบัติการของทหาร
- ปิดด่านชายแดน: สบทก. ยกระดับมาตรการควบคุมชายแดนเป็นระดับ 4 โดยปิดด่านเข้าออกทุกด่านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ ด่านช่องสายตะกู, ช่องจอม, ช่องสงำ, และช่องอานม้า
- ฮุน เซน โพสต์ Facebook: อดีตนายกฯ กัมพูชาโพสต์กล่าวหาไทยเปิดฉากโจมตี และกัมพูชาไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กลับ เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกและกักตุนสินค้า
- ฮุน มาเนต โพสต์ Facebook: นายกฯ กัมพูชาคนปัจจุบันโพสต์ประณามไทยและขอให้ UNSC เข้าแทรกแซง
- 10:50 น. F16 ขึ้นปฏิบัติการ: เครื่องบินขับไล่ F16 จำนวน 6 ลำของกองทัพอากาศไทยขึ้นปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ที่ช่องอานม้า
- 10:58 น. F16 ทำลายเป้าหมาย: F16 ยิงโจมตีและทำลายกองบังคับการของกัมพูชา
- โรงพยาบาลพนมดงรักฯ ถูกโจมตี: กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่ากัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์
- 11:37 น. ทำลายกระเช้าภูมะเขือ: ทหารไทยทำลายกระเช้าและบันไดทางขึ้นภูมะเขือของทหารกัมพูชา
- 12:05 น. สบทก. แถลงข่าว: แถลงสถานการณ์และมาตรการตอบโต้ ยืนยันว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
- ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ: มีรายงานผู้เสียชีวิตรวม 11 คน (พลเรือน 10, ทหาร 1) และบาดเจ็บ 28 คน (พลเรือน 24, ทหาร 4) รวมถึงเด็กชาย 5 ขวบและ 8 ขวบ
- โรงพยาบาลกันทรลักษ์อพยพผู้ป่วย: โรงพยาบาลกันทรลักษ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่
- ธปท. เตรียมแผนช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา: คุณ มาริธ เสงี่ยมพงษ์ (รมว. กระทรวงการต่างประเทศ) ประชุมทางไกลจากนิวยอร์กเกี่ยวกับแผนช่วยคนไทย
- รัฐบาลไทยลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต: เรียกเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญกลับประเทศ และขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับประเทศ
- แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศ: ประณามการละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรียกร้องให้ยุติการโจมตีเป้าหมายพลเรือนและทหาร พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันตนเองหากยังคงโจมตี
- คุณทักษิณ ชินวัตร โพสต์ X: ประณามฮุน เซน ที่สั่งยิงเข้าเขตไทย ยืนยันไทยใช้ความอดทนมามากแล้ว และทหารไทยสามารถตอบโต้ตามแผนยุทธการได้แล้ว
- คุณ เศรษฐา ทวีสิน โพสต์ X: ส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และประชาชน เน้นการรักษาเอกราชและศักดิ์ศรี พร้อมสนับสนุนมาตรการรัฐบาลในการปกป้องประเทศ
- คุณ แพทองธาร ชินวัตร โพสต์ X: ประณามการใช้ความรุนแรงของกัมพูชา ยืนยันกัมพูชาเริ่มใช้ความรุนแรงก่อน และไทยจะใช้มาตรการตอบโต้ภายใต้กรอบกฎหมายสากล
- 14:00 น. ประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ: ประชุมวาระพิเศษเพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางดำเนินการขั้นต่อไป
- ยุทธการ “ยุทธบดิน” เริ่มต้น: กองทัพไทยเปิดปฏิบัติการตอบโต้กัมพูชาครั้งใหญ่ที่สุด โจมตีทั้งทางบกและทางอากาศบริเวณเขาพระวิหารและแนวชายแดน
- โรงพยาบาลศรีสะเกษและสุรินทร์เปิดรับบริจาคเลือด: โรงพยาบาลต่างๆ ในศรีสะเกษและสุรินทร์ประกาศรับบริจาคเลือดทุกกรุ๊ป เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
- ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษสั่งอพยพ: ผู้ว่าฯ สุรินทร์และศรีสะเกษสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ห่างจากชายแดนกว่า 50 กิโลเมตร
- กสทช. สั่งเปิดสัญญาณมือถือในแนวชายแดน: เพื่อสนับสนุนการสื่อสารของทหารและประชาชน
- สหรัฐอเมริกาออกคำเตือนพลเมือง: สถานทูตสหรัฐฯ ในไทยเตือนพลเมืองให้ติดตามสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการไทย
- จีนแสดงความกังวลและเสนอตัวเป็นคนกลาง: โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายอดทนอดกลั้นและแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจา
- ฮุน เซน ปฏิเสธข่าวหนีไปจีน: โพสต์ Facebook ยืนยันยังอยู่ในกัมพูชาและบัญชาการกองทัพทางวิดีโอ (ภายหลังพบว่าเป็นคลิปที่อัดไว้ล่วงหน้า)
- พบผู้เสียชีวิตในปั๊มน้ำมัน: แม่ลูกเสียชีวิตในร้านสะดวกซื้อของปั๊มน้ำมันในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จากจรวด BM21 ที่กัมพูชายิงถล่ม
- กองทัพบกประณามการโจมตีพลเรือน: ย้ำว่าการกระทำของกัมพูชาไร้มนุษยธรรมและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวา มาตรา 18 ที่ระบุว่าโรงพยาบาลพลเรือนต้องไม่ถูกโจมตี
- ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ระดมรถพยาบาล: ระดมรถพยาบาลจาก 22 อำเภอ เพื่อสนับสนุนการอพยพผู้ป่วย
